ในช่วงสถานะการที่เชื้อไวรัส COVID-19 กำลังกลับมาแพ้ละบาดอีกครั้ง แม้ว่าเชื้อจะไม่ได้ส่งผลกับร่างกายเราร้ายแรงมากเท่ากับในครั้งก่อน แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันก็ยังทำให้เราเสียสุขภาพและเสียเวลาในการรักษากันไม่น้อยเลย....
แต่ก็ยังโชคดีที่ในปัจจุบันเรานั้นมีวิธีป้องกันตัวเองจากเชื้อไวรัส COVID-19 กันอยู่มากมายหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงพื้นที่แออัด การสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือฆ่าเชื้อโรคด้วยแอนกอฮอร์ หรือแม้กระทั้งการทำให้ร่างกายของตัวเองแข็งแรงขึ้นเพื่อสร้างภูมิสู้กับเชื้อด้วยการหมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และการกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่
นอกจากนี้การเลือกกินก็เป็นหนึ่งสิ่งที่สำคัญ เพราะนอกจากรับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่แล้ว รู้หรือไม่ว่ายังมีอาหารและผักผลไม้บางประเภทที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทำให้ร่างการทำให้เราแข็งแรงขึ้นได้อีกด้วย
แล้วแร่ธาตุและวิตามินที่ได้จากผักหรือผลไม้ตัวไหนละที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเราได้ ถ้าพร้มแล้วเราไปดูกันเลย!
1. ZINC
ZINC ซิงค์หรือที่รู้จักกันในชื่อ"แร่ธาตุสังกะสี" นั้นเป็นสารอาหารชนิดหนึ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อร่างกายคนเรา ทั้งมีส่วนช่วยในการเจริญเติมโตของร่างกาย การฟื้นฟุเซลล์ การซ่อมแซมเนื้อเยื้อ มีความสำคัญในการผลิตเอนไซม์ และฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับระบบเผาผลานพลังงานของร่างกาย นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการช่วยสังเคราะห์ DMA และโปรตีน ซึ่งอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูและซ้อมแซมเซลล์ที่เสียหายอีกด้วย อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
เนื่องจากซิงค์มีสรรคุณในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยพัฒนาและเสริมสร้างการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันอย่างเซลล์เม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์ (Lyphocytes) ที่ทำหน้าที่ในการตรวจจับ และกำจัดเชื้อโรคที่เข้ามาในร่างกายนั่นเอง
ZINC ได้จากอาหารชนิดได้บ้าง?
มักพบได้มากในอาหารทะเล เช่น หอยนางรม , กุ้ง , ปู , ปลา
- เนื้อสัตว์ = เนื้อวัว , เนื้อหมู , ตับ , เนื้อไก่
- ผัก = ผักโขม , บรอกโคลี , มะระจีน , คะน้า , หน่อไม้ฝรั่ง , เห็ด , ผักกาด
- ผลไม้ = มะม่วง , แอปเปิ้ล , สับปะรด , ส้ม
- ธัญพืช = ข้าวกล้อง , ข้าวสาลี , ข้าวโอ๊ต , ควินัว , เมล็ดทานตะวัน , เมล็ดฟักทอง
- ถั่ว = ถั่วลิสง , ถั่วดำ , ถั่วแดง , ถั่วลูกไก่ , เมล็ดฟักทอง , เม็ดมะม่วงหิมพานต์
- ผลิตภัฒฑ์อื่นๆ = นมสด , โยเกิร์ต , ชีส , ผงโกโก้ , ไข่แดง , กระเทียม , ดาร์กช็อกโกแลต
2. VITAMIN C
วิตามินซี หรือก็คือ กรดแอสคอร์บิก เป็นวิตามินที่มักจะพบได้ในอาหารหลายๆอย่าง มักใช้ในการป้องกันและรักษาโรคลักปิดลักเปิด อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และผลิตสารสื่อประสาทบ่างชนิดโดยอาศัยเอนไซม์ที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย อีกทั้งยังสามารถต้านอนุมูลอิสระ และมีความสำคัญกับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย
VITAMIN C ได้จากอาหารชนิดได้บ้าง?
วิตามินซีมักพบได้มากในผลไม้ เช่น ส้ม , ฝรั่ง , สตอรอว์เบอร์รี , กีวี , มะขามป้อม , เงาะโรงเรียน , ลิ้นจี่ , ส้มโอ และมักพบได้ในผัก เช่น พริกหวานสีต่างๆ , ผักคะน้า , มะระขี้นก , ดอกกะหล่ำ , บลอกโคลี
3. VITAMIN A
วิตามินเอ หรือ เรตินอล มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างและซ่อมแซมเซลล์ต่างๆในร่างกายเรา อีกทั้งยังช่วยในการมองเห็นและป้องกันโรคทางสายทาบางชนิด ช่วยในเรื่องระบบสืบพันธุ์ทั้งผู้ชายและผู้หญิง บำรุงผิวพรรณ และ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายสามารถป้องกันการติดเชื้อและโรคต่างๆได้อีกด้วย
VITAMIN A ได้จากอาหารชนิดได้บ้าง?
วิตามินเอ มักพบได้ในเนื้อสัตว์ เช่น ตับ , ปลา ,ไข่ , นม ,เนย พบได้ในผัก เช่น แครอท , ฟักทอง , ผักโขม , คะน้า และพบได้ในผลไม้ เช่น แอปริคอต , แคนตาลูป , มะละกอ
4. VITAMIN D
วิตามินดี เป็นวิตามินที่มีความสำคัญกับร่างกายเราหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการช่วยดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสจากอาหารต่างๆและรักษาแร่ธาตุดังกล่าวในเลือดให้อยู่ในค่าปกติ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตและเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟันป้องกันโรคที่เกี่ยวกับกระดูก และยังเป็นกำลังสำคัญในระบบภูมิคุ้มกันช่วยป้องกันเชื้อโรคและกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายทั้งเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัส
VITAMIN D ได้จากอาหารชนิดได้บ้าง?
วิตามินดีพบได้ในอาหารหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน , ปลาแมคดคอเรล , ปลาทูน่า , ปลาเทราต์ , ปลาเฮอริ่ พบได้ในสัตว์เนื้อแดง เช่น เนื้อวัว , เนื้อหมู , ตับวัว และยังพบได้ใน ไข่แดง เห็ดหอม โยเกิร์ต และสาหร่ายบางชนิด
5. VITAMIN E
วิตามินอี มีคุณสมบัติในกาบำรุง สมอง เซลล์เม็ดเลือกแดง ผิวหนัง ดวงตา และเซลล์อื่นๆในร่างกายของเราให้แข็งแรง อีกทั้งยังช่วยต้านอนุมูลอิสสระ ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอย่าง โรคมะเร็ง อัลไซเมอร์ และ โรคหัวใจ ได้ และยังช่วยบำรุงครรภ์ ได้อีกด้วย
VITAMIN E ได้จากอาหารชนิดได้บ้าง?
วิตามินอีมักพบได้ในน้ำมันจากพืช เช่น น้ำมันเรพซีด , น้ำมันดอกทานตะวัน , น้ำมันถั่วเหลือง , น้ำมันมะกอก , น้ำมันข้าวโพด พบได้ในถั่วและธัญพืช เช่น อัลมอนด์ , ถั่วลิสง , เฮเซลนัท และพบได้ในผักและผลไม้ เช่น มะม่วง , กีวี , อะโวคาโด , ทับทิม , มะเขือเทส
6. Probiotics (โปรไบโอติกส์)
โปรไบโอติกส์ คือจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยปรับสมดุลของลำไส้ และมีส่วนช่วยในการย่อยอาหาร การดูดซึมสารอาหาร อีกทั้งยังช่วยในการสังเคราะห์วิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย ป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ป้องกันโรคร้าย และช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงอีกด้วย
Probiotics ได้จากอาหารชนิดได้บ้าง?
โปรไบโอติกส์มักพบได้ในอาหารที่ผ่านการหมัก ดอง เช่น โยเกิร์ต , นมเปรี้ยว , คีเฟอร์ , คอมบูชา , ขิงดอง , กิมจิ , ซุปมิโสะ , เทมเป้ , นัตโตะ ชีสบางชนิด เช่น มอซซาเรลลาชีส , เชดด้าชีส , คอทเทจชีส
มาถึงตรงนี้ทุกคนก็คงจะรู้กันแล้วว่าอาหารประเภทใดให้วิตามินและแร่ธาตุชนิดไหนกันบ้างแล้ว และนอกจากนี้เราก็ยังต้องรู้อีกว่าอาหารนั้นๆต้องรับประทานเท่าไหร่ถึงใจได้ปริมาณแร่ธาตุและวิตามินมากพอตามที่ร่างกายของเราต้องการ ซึ้งอาหารแต่ละอย่างก็ให้สารอาหารที่เราต้องการไม่เท่ากัน บางอย่างถ้าทานมากหรือทานน้อยเกินก็อาจจะส่งผลเสียกับร่างกายมากกว่าที่จะเป็นผลดี
เพราะฉะนั้นเราจึงต้องคำนวนให้ดีว่าควรจะรับประทานอย่างไรจึงจะเหมาะสมกับร่างกายของเรา โชคดีที่ในปัจจุบันเรานั้นมีวิธีการทางเลือกมากมายในการรับเอาวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นเข้าสู่ร่างกาย โดยที่เรานั้นไม่ต้องมานั่งคำนวนหรือค่อยระวังผลเสียที่จะตามมาจากการบริโภคอาหารแต่ละอย่าง
และวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคงหนีไม่พบการเลือกทานอาหารเสริมต่างๆ เพราะนอกจากจะมีตัวเลือกที่หลากหลายแล้ว เรายังสามารถเลือกทานอาหารเสริมที่เหมาะสมกับตัวเราเองได้อีกด้วย!